top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนSathit Jittanupat

Let People Grow



จงเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวมึงเก่ง


เช้าวันขึ้นปีใหม่ ตื่นขึ้นมาเวลาเดิมด้วยความเคยชิน บรรยากาศไม่เร่งรีบ คืนวันสิ้นปีผมใช้เวลาทำสิ่งที่ไม่เคยได้ทำมานานแล้ว นอนตั้งแต่หัวค่ำ แล้วตกใจตื่นด้วยเสียงพลุตอนเที่ยงคืน ทำให้มีเวลาเริ่มปีใหม่ที่จะได้ทบทวนถึงเรื่องราวที่ผ่านมากับคนที่สำคัญที่สุดในชีวิต “ตัวเอง”


ครึ่งแรกของปี 2022 แตกต่างจากครึ่งหลัง จุดเปลี่ยนมาจากคำถามที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ ผมตั้งข้อสังเกตในช่วงระยะหลัง สัดส่วนของพลังที่ใช้ในพัฒนาและวางระบบให้กับองค์กรธุรกิจแต่ละแห่งเปลี่ยนไปมาก ไม่มีสูตรสำเร็จ หนึ่ง สอง สาม ให้ทำซ้ำ ภาพจำของโปรแกรม ERP ที่ใช้เพื่อควบคุมกระบวนการทำงานภายในยังคงอยู่ในความคิดของผู้ประกอบการ เป็นเพียงเสี้ยวส่วนเดียวของความเข้าใจ การไปสู่น่านน้ำใหม่ขององค์กร ผู้บริหารต้องการเวลาที่จะเข้าใจถึงศักยภาพของโปรแกรมสมัยใหม่


ทำเองได้ทุกอย่างอาจไม่มีอยู่จริงแล้ว ทัศนะสร้างองค์กรที่เพียบพร้อม เปิดแนวรบทุกด้าน แลกมาด้วยการรวบรวมแม่ทัพที่เก่งกาจเข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้จังหวะปัจจุบัน ที่ความเปลี่ยนแปลงมักจะมาเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน ภาพที่เราเห็นอาจเป็นเพียงชัยชนะจากแรงเฉื่อยของความยิ่งใหญ่ในอดีต มีต่อสิ่งใหม่ที่เพิ่งก่อเกิดยังต้องการเวลาเติบโต


การทำงานระยะไกล (Remote Working) เป็นตัวอย่างที่โปรแกรม Cloud Platform ทำได้ง่ายมาก แต่กลับกลายเป็นความยากลำบากขององค์กร เพราะคนส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าการจ้างใครสักคนเป็นการซื้อเวลาของเขา ขาด-ลา-มา-สาย ยังเป็นอินเด็กซ์มาตรฐานที่ใช้วัดคุณค่าของพนักงานที่มีต่อองค์กร


ขั้นต่อจากการทำงานระยะไกล จะมองเห็นโอกาสที่จะเกิดรูปแบบความร่วมมือที่แยกอิสระได้จาก Outsource ไปจนถึง Venture เมื่อถึงตอนนั้นจะเป็นการต่อภาพใหญ่ขององค์กรที่จะต้องทำงานร่วมกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน แทนที่ภาพของฝ่ายแผนกที่อยู่ภายในองค์กรเดียว


สำหรับผมมีความคิดเห็นว่าขอบเขตงาน Cloud ERP ที่พยายามผลักดัน มาถึงจุดที่ไกลเกินกว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่เข้าใจ เมื่อเงื่อนไขการทำงานร่วมกันไม่สามารถเดินหน้าได้เต็มกำลังอย่างที่คาดหวัง การหยุดรอกระแสลมแห่งการเปลี่ยนแปลงให้พัดมาถึงก่อน น่าจะเหนื่อยแรงน้อยกว่า


ครึ่งหลังของปี เป็นการตัดสินใจร่วมกันกับเพื่อนผู้ก่อตั้งกระโดดข้ามเส้นแบ่งของความมั่นคง ต้องการพิสูจน์ศักยภาพ Cloud Platform ที่ยังไม่มีใครเชื่อ ด้วยการลงทุนโมเดลธุรกิจใหม่ ช่วงนั้นมีพี่ที่ทำสำนักงานบัญชีมาปรึกษาเรื่องโปรแกรม Cloud สำหรับสำนักงานบัญชี ทำให้เกิดภาพสองภาพเข้ามาซ้อนกันพอดี


สมัยบุกเบิกของโปรแกรมบัญชี ผมเคยทำโปรแกรมที่ใช้กับสำนักงานบัญชีก็ได้ ใช้กับกิจการขนาดเล็กก็ได้ เมื่อเวลาผ่านไปความต้องการใช้ของฝั่งกิจการมีมากกว่า ทำให้โปรแกรมพัฒนาไปสู่ ERP ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่ไม่ได้คิดฝันว่าโปรแกรมเมื่อยี่สิบปีที่แล้วยังใช้ได้ดีกับสำนักงานบัญชี


ทำให้เข้าใจความหมาย "โปรแกรมที่สำนักงานบัญชีใช้ ไม่ใช่ ERP" ถึงแม้ว่ามีจุดเริ่มต้นจากบัญชีเหมือนกัน และตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เกิดความปั่นป่วนของสำนักงานบัญชี เมื่อโปรแกรม ERP Cloud เป็นทางเลือกใหม่ของกิจการ


ถ้าไม่นับกิจการที่มีผู้จัดการฝ่ายบัญชีปิดงบได้เอง ผู้ประกอบการที่ใช้บริการสำนักงานบัญชีได้มาถึงจุดแยกสองสาย ทางหนึ่งคือเส้นทางเดิมที่เคยทำกันมาหลายสิบปี สำนักงานบัญชีรับผิดชอบปิดงบเพื่อยื่นภาษีเป็นหน้าที่หลัก ส่วนการบริการอื่น ๆ เป็นตัวเลือกเสริม เช่น การแนะนำให้กิจการใช้โปรแกรมบัญชีเหมือนกับที่สำนักงานใช้


การมาของโปรแกรม ERP Cloud ทำให้ผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลเพื่อบริหารได้มากกว่าแค่ทำบัญชียื่นภาษี กิจการที่เริ่มต้นใหม่จึงไม่มีใครคิดถอยกลับไปใช้โปรแกรมบัญชีเก่า ที่สำคัญข้ออ้างสำนักงานบัญชีที่ว่าเข้ามาดูบัญชีภายในไม่ได้หายไป เพราะความสามารถ Remote Working เป็นจุดเปลี่ยนของรูปแบบความสัมพันธ์ต่างคนต่างทำกลายเป็นต้องทำตัวเหมือน Outsource แผนกบัญชีให้กับกิจการ พร้อมกับคีย์เวิร์ด “ทำบัญชีเล่มเดียว” เรื่องนี้กระทบกับวิธีคิดและวิธีทำงานที่เคยทำมาเนิ่นนานของสำนักงานบัญชี


ในระยะยาวต้นทุนของการทำบัญชีแบบเก่าสู้ Cloud ไม่ได้ หากจะกล่าวในแง่ร้ายสุด ๆ อาจจะถึงคำว่า “สูญพันธุ์” ที่ค่อย ๆ เกิดขึ้นไปพร้อมกันในห่วงโซ่ กิจการขนาดเล็ก และ สำนักงานบัญชี ผมสัมผัสถึงความกังวลของเจ้าสำนักที่ได้เห็นโปรแกรมรุ่นใหม่แล้วยังนึกไม่ออกว่าจะต้องขยับเดินตาต่อไปอย่างไร


กลับมาเรื่องเล่าของครึ่งปีหลังที่ผ่านมา จุดเปลี่ยนเริ่มจากได้มีโอกาสเล็ก ๆ ได้รับอนุญาตเข้าไปเก็บข้อมูลเพื่อจำลองการทำงานของสำนักงานบัญชี ตั้งทีมมาทำงานคู่ขนาน เมื่อได้รู้เห็นการทำงานจริง ทำให้ต้องกลับมาทบทวนกลยุทธที่ตั้งไว้อีกครั้ง


เจ้าสำนักบัญชี หัวหน้าสำนักงาน และพนักงานบัญชี เป็นสามบทบาทสำคัญ บางแห่งคนคนเดียวอาจควบหลายบทบาท หากต้องการรับงานมากขึ้นจำนวนของหัวหน้าและพนักงานที่เป็นผู้ปฏิบัติก็ต้องเพิ่มขึ้นตามสัดส่วน ประสิทธิภาพและคุณภาพขึ้นอยู่กับการวางระบบของเจ้าสำนัก ดังนั้นเจ้าสำนักที่เก่งสร้างหัวหน้าได้ และหัวหน้าที่สามารถปั้นลูกน้องให้แทนตัวเอง จึงเติบโตเป็นเจ้าสำนักได้


“คนที่มาฝึกงานเป็นลูกน้องผม ถ้าเกินสองปีผมก็ไล่ให้ออกไปได้แล้ว”


เพื่อนผมเล่าถึงคำของครูไม้ท่านหนึ่ง ที่เคยสอนช่างมานับพันคน ผมเพิ่งมาเข้าใจความหมายเมื่ออ่านสเตตัสของ Project Manager ท่านหนึ่ง


“เริ่มจากเราต้องคิดและยอมรับให้ได้ก่อนว่าน้อง ๆ เหล่านี้เขาจะไม่อยู่กับเราจน retire เพราะมันเป็นแนวคิดที่ล้าสมัยละ เรามาเจอกันเพื่อจากกัน เราเปลี่ยนเป็นทำไงให้น้อง ๆ ได้อาวุธวิชาที่เราคิดว่าเป็นที่ต้องการไปจากพวกเราให้มากที่สุด ทำให้น้อง ๆ เป็นคนที่ทรงพลังและให้พวกเขาบินออกจากเราไปให้ไกลที่สุด”

Twin Panitsombat - 2022 (Facebook)


ปีใหม่นี้ ผมกลับมาทบทวนเป้าหมายที่คิดจะเดินต่อไปอีกครั้ง ผลพลอยได้จากการเก็บข้อมูล ทำให้มีเคสลงบัญชีจริงของธุรกิจหลายประเภทที่ยากง่ายซับซ้อนต่างกัน เช่น อพาร์ตเมนต์, ขนส่ง, ก่อสร้าง, ร้านทอง, คลีนิค ฯลฯ ทำให้หวนกลับมาคิดถึงคำครู บางทีควรเดิมพันกับการพัฒนาคนบัญชีให้พร้อมบินได้กว้างไกลกว่าเดิม รุ่นแล้วรุ่นเล่าจนมากพอพร้อมสำหรับ Outsource หรือกลับมาเป็น Venture อาจนำไปสู่วิถีของสำนักงานบัญชีไกลกว่าที่คิดไว้

ดู 3 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comments


Post: Blog2_Post
bottom of page